ในปัจจุบันสแตนเลสมีอยู่หลายชนิด โดยปกติแล้ว สแตนเลสทั่วไปจะมีส่วนผสมของของโครเมี่ยมอย่างน้อย 10-15% ซึ่งจะช่วยให้การหลอมละลายของแสตนเลสเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การเชื่อมสแตนเลสจำเป็นต้องเลือกลวดเชื่อมสแตนเลสให้เกิดความเหมาะสม นั่นก็เพราะว่า เมื่อเราทำการเชื่อมหากไม่มีการป้องกันออกซิเจน จะทำให้เกิดการสูญเสียปริมาณของโครเมียมและทำให้เกิดกระบวนการออกไซด์ มีผลทำให้รอยเชื่อมและชิ้นงานไม่สมบูรณ์ และเกิดการกัดกร่อนของแนวเชื่อมนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากแนะนำ 4 ขั้นตอนการเชื่อมสแตนเลส ทำอย่างไร ให้งานออกมาดีและสมบูรณ์แบบ ตามมาดูกัน
สิ่งที่ต้องคำนึง 4 อย่าง การเชื่อมสแตนเลส ทำอย่างไรให้ได้งานคุณภาพ
1.การเตรียมการสิ่งที่ต้องทำของการเชื่อมสแตนเลส
การเชื่อมสแตนเลสสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ การเลือกลวดเชื่อมสแตนเลสให้เหมาะสมกับชนิดของสแตนเลส เพราะโดยปกติสแตนเลสมีหลายชนิดมาก การเตรียมความพร้อมด้วยการศึกษารายละเอียดของชนิดสแตนเลส จะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีขึ้น รวมถึงการเลือกกระบวนการเชื่อมให้สอดคล้องกับงานเชื่อมสแตนเลส โดยเราอาจต้องใช้กระบวนการเชื่อมอาร์กอน เพื่อลดการเกิดการเสียรูป การบิดงอระหว่างเชื่อมสแตนเลส
2.เลือกกระบวนการเชื่อมให้สอดคล้องกับงานเชื่อมสแตนเลส
การเลือกกระบวนการเชื่อมให้เหมาะสมกับงาน มักจะมีตัวแปรสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องดังนี้
- ความหนาของชิ้นงาน
- ท่าทางในการเชื่อม ทิศทางของการเชื่อม และตำแหน่งในการเชื่อม ควรศึกษาเทคนิคและวิธีการเชื่อมให้สอดคล้องกัน
- การเตรียมความพร้อมด้วยเครื่องเชื่อมและอุปกรณ์ ให้สมบูรณ์แบบ
- พื้นฐานที่ดีสำหรับงานเชื่อมสแตนเลสเป็นสิ่งสำคัญ
3.เลือกเครื่องเชื่อมให้เหมาะสมกับงานเชื่อมสแตนเลส
การเลือกเครื่องเชื่อมให้เหมาะสมกับลวดเชื่อมสแตนเลส รวมถึงชนิดของสแตนเลส เพื่อประสิทธิภาพที่ดีหากเราเลือกเครื่องเชื่อมได้อย่างเหมาะสม ประกอบไปด้วย ดังนี้
- การเชื่อมแบบทิก หรือเชื่อมอาร์กอน (TIG/GTAW)
- การเชื่อมแบบมิก-แม็ก หรือเชื่อมซีโอทู (MIG-MAG/GMAW)
- การเชื่อมแบบฟลั๊กซ์คอร์ (FCAW)
- การเชื่อมแบบอาร์คไฟฟ้า หรือเชื่อมธูปไฟฟ้า (MMAW/SMAW)
4.การทำความสะอาดผิวหรือการปิดผิวชิ้นงานหลังการเชื่อม
การทำความสะอาดหรือปิดผิวชิ้นงานหลังการเชื่อมมีความสำคัญต่อคุณภาพของรอยเชื่อมโดยตรง นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อเชื่อมชิ้นงานสแตนเลสด้วยลวดเชื่อมสแตนเลส สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คงหนีไม่พ้นเรื่องคาบแนวเชื่อมสามารถเกิดขึ้นได้จากด้านหน้าและด้านหลังของแนวเชื่อม รวมถึงภาพออกไซด์และสิ่งสกปรกต่างๆ การทำความสะอาดพื้นผิวหลังแนวเชื่อมเราสามารถทำได้ด้วย การขัดเจีย หรือขัดตกแต่งผิว แล้วใช้น้ำยาเคมีภัณฑ์ล้างแนวเชื่อมสแตนเลสหรือการทำพิคคลิง (pickling) นั่นเอง
ดังนั้น การเลือกลวดเชื่อมสแตนเลสให้เหมาะสมกับกระบวนการเชื่อมสแตนเลส จึงมีความสำคัญตั้งแต่เริ่มต้น ประกอบด้วยสกิลในงานเชื่อม ประเภทตู้เชื่อมและอุปกรณ์ การเลือกลวดเชื่อมสแตนเลส และการทำความสะอาดปิดผิวหลังงานเชื่อม เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำการเชื่อมสแตนเลสได้อย่างสวยงามและมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น